AI และงานอัตโนมัติ
สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ทำทื่อๆ แบบขอไปที
เจาะลึกเทคโนโลยี
AI กำลังสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการบริการลูกค้า
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือและบริการแบบเปิดตลอดเวลา ไปจนถึงระบบแบ็กเอนด์ที่สามารถคัดกรองใบสั่งงานได้เร็วกว่าทีมพนักงานทั้งหมด เทคโนโลยีอเนกประสงค์นี้ได้เพิ่มความคาดหวังของลูกค้าให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเรื่องการให้บริการที่ดีที่สุดในกลุ่มเดียวกัน

แต่ถ้าขาดกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการนำ AI มาใช้งาน หลายธุรกิจก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่างฉีกกฎการบริการลูกค้าแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต ไลฟ์แชท โทรศัพท์พกพา และ AI ธุรกิจล้วนต้องมุ่งมั่นที่จะทบทวนแนวความคิดและแนวทางใหม่ของตน หากทำไม่ได้ย่อมเสี่ยงที่จะทำให้ลูกค้าไม่พอใจ หรือที่ร้ายกว่านั้นคือการบั่นทอนความสามารถในการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณภาพเพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือบริการเป็นประจำ</p.
ผู้นำธุรกิจต่างตระหนักแล้วว่า AI มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้เกิดการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่นำไปสู่รายได้ที่เพิ่มขึ้น เพราะเหตุนี้ธุรกิจ 57 เปอร์เซ็นต์วางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้าน AI อย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า แต่มีหลายบริษัทที่ยังต้องจัดการกับเรื่องที่ยากกว่า นั่นคือการสร้างการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับจุดแข็งของสมาชิกทั้งหมดในทีมช่วยเหลือและบริการ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือหุ่นยนต์ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหยุดอยู่แค่การบริการที่ "ดีพอ" เพราะลูกค้าต้องการสิ่งที่ดีที่สุด และเริ่มเห็นมากขึ้นว่า AI คือกุญแจสำคัญที่นำไปสู่เป้าหมายด้านประสบการณ์อันยอดเยี่ยม

61% ของลูกค้าในปัจจุบันตั้งใจที่จะบอกลาหลังจากเกิดประสบการณ์การบริการลูกค้าที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว
61 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าในปัจจุบันตั้งใจที่จะบอกลาหลังจากเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว บริษัทต่างๆ ต้องรีบพัฒนากลยุทธ์ด้าน AI ที่ตอบโจทย์ เราได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า เอเจนต์ ผู้นำธุรกิจ และทีมของเราเองเพื่ออธิบายว่าแนวทางด้าน AI ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้ลูกค้า (ประจำ) ที่มีความสุขกว่าเดิมได้อย่างไร ตลอดจนผลลัพธ์เชิงธุรกิจที่ดีขึ้น และมีข้อได้เปรียบในการแข่งขันจากการปฏิบัติต่อลูกค้าเป็นอย่างดี
ลูกค้าคาดหวังอะไรจาก AI
ลูกค้าต้องการให้ AI ช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ใช่ทำให้ลำบากมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้วลูกค้าเห็นว่า AI เป็นเครื่องมือที่ดี ที่สามารถปรับปรุงปฏิสัมพันธ์และประสบการณ์กับธุรกิจต่างๆ
ไม่เลวเลย และมีลูกค้า 65 เปอร์เซ็นต์คาดหวังว่า AI จะช่วยทุ่นเวลา ลูกค้าอีก 64 เปอร์เซ็นต์บอกว่า AI จะช่วยไม่ให้ตนเองต้องบอกข้อมูลซ้ำๆ เมื่อมองไปข้างหน้า มีลูกค้า 61 เปอร์เซ็นต์คาดหวังว่าปฏิสัมพันธ์ด้านการบริการส่วนใหญ่ในอนาคตกับบริษัทต่างๆ จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ
ก่อนจะพูดถึงข้อดี ลูกค้าโดยมากก็สังเกตเห็นช่องว่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างศักยภาพในการให้บริการของ AI กับความเป็นจริงในปัจจุบัน แทนที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น AI กลับสร้างอุปสรรคโดยไม่เจตนา และในบางกรณีทำให้ลูกค้าลำบากขึ้นกว่าจะได้คำตอบที่ต้องการ 60 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้าระบุว่าผิดหวังกับประสบการณ์แชทบอทของตนอยู่บ่อยครั้ง
ลูกค้าหงุดหงิดกับแชทบอท
แม้จะทำให้รู้สึกหงุดหงิด ลูกค้าก็ยังเปิดใจและหวังว่าธุรกิจต่างๆ จะปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น
จำนวนของลูกค้าที่ตั้งใจจะหันไปใช้แชทบอทสำหรับปัญหาง่ายๆ เพิ่มขึ้น 13 หน่วยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆ กำลังทุ่มเทเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของตน:
50% ของบริษัทต่างๆ กล่าวว่าใช้ AI เพื่อให้คำแนะนำโดยอ้างอิงจากประวัติการซื้อหรือการค้นหา
40 เปอร์เซ็นต์ใช้ AI เพื่อเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางติดต่อที่ลูกค้านิยมใช้
39 เปอร์เซ็นต์ใช้ AI เพื่อจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าโดยอ้างอิงจากสถานะหรือประเภทบัญชี
AI and automation in action
บริษัทที่ใช้ Zendesk เพื่อการปฏิบัติงานด้านการช่วยเหลือและบริการสามารถลดเวลาในการรอและจัดการใบสั่งงานได้มากขึ้นด้วย AI และงานอัตโนมัติ:
ธุรกิจที่มีการใช้ความสามารถของ AI ต่ำ
งบประมาณก้อนโตหรือจะสู้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด
แม้บริษัทต่างๆ อาจทุ่มงบเพื่อลงทุนด้าน AI แต่ความท้าทายในด้านการวางแผนและการนำไปใช้งานไม่สวยหรูอย่างที่คิด
บริษัทต่างๆ มีการแบ่งแยกดังนี้ มีบริษัท 57 เปอร์เซ็นต์ระบุว่าพวกเขามีแนวทางเฉพาะกิจในการวางกลยุทธ์ด้าน AI ไม่เท่านั้น มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมของตนเชี่ยวชาญเรื่องความสามารถของ AI ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งแปลว่ามีบริษัทจำนวนมากที่ต้องลองผิดลองถูก
หากมองข้ามเรื่องจุดแข็งและจุดอ่อนของ AI ธุรกิจต่างๆ วางแนวทางของตนในเรื่องนี้ไว้เพียงผิวเผินเท่านั้น แล้วผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นย่อมเป็นประสบการณ์ที่น่าผิดหวังสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แชทบอทนั้นจะเป็นคู่หูที่เก่งกาจเหลือเชื่อ ก็ต่อเมื่ออยู่ควบคู่กับการวางแผนที่ให้ความสำคัญต่อจุดแข็งของแชทบอท
"ผู้นำคิดว่าจะใช้บอทแทนมนุษย์ได้ แต่ใช่ว่าทำงานได้เป็นอย่างดี" Jon Aniano รองผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์และแอปพลิเคชัน CRM ของ Zendesk กล่าว "บริษัทที่จัดการ AI ได้เหมาะสมกำลังคำนึงถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดอย่างเต็มที่ โดยเริ่มจากการพิจารณาว่า AI เก่งกว่ามนุษย์ในเรื่องอะไรบ้าง"

ในช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ทีมช่วยเหลือและบริการของ Tile ได้เริ่มใช้งานแชทบอทเพื่อช่วยทีมจัดการใบสั่งงานที่มีจำนวนมากกว่าปกติ
จากคำแนะนำของลูกค้า แชทบอทของคุณควรรับบทเด่นในด้านต่อไปนี้:

บอกลิงก์และข้อมูลที่จะช่วยให้ลูกค้าแก้ไขปัญหาของตนเองได้

ให้คำตอบที่รวดเร็ว และสะดวกขึ้นในการแก้ไขปัญหาง่ายๆ

ตอบคำถามและตอบข้อความต่างๆ นอกเวลาทำการปกติ
ธุรกิจเล็งเห็นศักยภาพของแชทบอท

ข้อมูลในรายงานฉบับนี้มาจากแหล่งข้อมูลสามแหล่ง: แบบสำรวจทั่วโลกตอบโดยผู้บริโภค 3,500 ราย แบบสำรวจทั่วโลกตอบโดยธุรกิจ 4,600 แห่ง และข้อมูลเกณฑ์มาตรฐานการใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Zendesk จากกว่า 97,500 บริษัท
ใช้แนวทางที่ชาญฉลาดเพื่อใช้ AI
ด้วยความมุ่งมั่นในการปฏิบัติต่อลูกค้าเป็นอย่างดี ธุรกิจต่างๆ จึงต้องวางกลยุทธ์ AI ที่ชาญฉลาดที่จะทำให้ทุกฝ่ายทำงานได้อย่างเต็มที่
แชทบอทไม่ควรพยายามแก้ไขปัญหาที่ต้องอาศัยมนุษย์ "ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณได้สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม" Aniano กล่าว ในทำนองเดียวกัน เอเจนต์ไม่ควรจมอยู่กับการพยายามคัดกรองใบสั่งงานหรือตอบกลับลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ หาชื่อผู้ใช้ หรือดูสถานะคำสั่งซื้อของตน
เราขอแนะนำเคล็ดลับในการวางกลยุทธ์การบริการลูกค้าที่เหนือกว่าระดับเดียวกันซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI:
เริ่มจากการพิจารณาจำนวนปัญหาสำคัญที่พบในการบริการลูกค้า ปัญหาดังกล่าวควรรวมไปถึงคำถามเกี่ยวกับการบริการตนเอง และใบสั่งงานที่เอเจนต์ทีมบริการลูกค้ามีหน้าที่จัดการ หากคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ให้เน้นที่ปัญหาสำคัญ 10 อันดับแรก สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ ควรเริ่มจากการตีกรอบที่ภูมิภาคหรือหน่วยธุรกิจที่บริหารจัดการได้ง่าย
ประเมินปัญหาเหล่านั้นแล้วจัดกลุ่มโดยคำนึงว่า
- ต้องพึ่งมนุษย์หรือไม่
- เปลี่ยนเป็นอัตโนมัติได้ทั้งหมดหรือไม่ หรือ
- ต้องอาศัยมนุษย์และงานอัตโนมัติควบคู่กันหรือไม่
สำหรับปัญหาที่เปลี่ยนเป็นอัตโนมัติได้ทั้งหมด ให้พิจารณาว่า AI หรืองานอัตโนมัติสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าในปัจจุบันที่มนุษย์เป็นผู้ดูแลหรือไม่ ซึ่งรวมถึงการพิจารณาว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพหรือยกระดับเวิร์กโฟลว์หรือกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับเอเจนต์ได้หรือไม่
จัดลำดับความสำคัญสำหรับปัญหาที่เปลี่ยนเป็นอัตโนมัติได้ทั้งหมด พร้อมทั้งระบุประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมต่อธุรกิจ (เช่น การลดต้นทุน หรือโอกาสในการอัปเซล)
เมื่อเรียบร้อยแล้ว จึงต่อด้วยปัญหาอื่นๆ ที่เหลืออยู่ โดยพิจารณาว่าถ้าเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าโดยรวมหรือไม่ แม้ว่าจะไม่เกิดประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจก็ตาม